วันเสาร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2552

พระกษิติโพธิสัตว์ (พระมาลัย )
















地藏王菩萨 พระกษิติโพธิสัตว์ หรือพระมาลัย ท่านมีชื่อในภาษาบาลีว่า ksitigarbha ตามความเชื่อแบบมหายาน ท่านเป็นหนึ่งในแปดพระโพธิสัตว์ ที่ได้รับการยกย่องเป็นอย่างสูง ถึงคุณธรรมของท่านที่มีความสงบไม่หวั่นไหว ดุจดั่งผืนแผ่นดิน และ ปัญญาไตร่ตรองอย่างละเอียดลึกซึ้งดุจแผนที่ขุมทรัพย์ จนเป็นที่มาของชื่อเรียกในภาษาจีนกลางว่า 地藏 (ตี้จั้ง)
地 di (ตี้) หมายถึง ผืนแผ่นดิน
藏 zang (จั้ง) มาจากคำเต็มว่า 宝藏 baozang (เป่าจั้ง) หมายถึง ขุมทรัพย์ ,ทรัพย์สมบัติ
ตามบันทึกเล่าประวัติของท่านว่า ตั้งแต่ในอดีตชาติอันนานแสนนาน ในสมัยพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อน ๆ ได้มีสตรีนางหนึ่งที่เป็นเดียรถีร์ นางมีแม่ที่ไม่เคยเชื่อเรื่องศาสนา และการทำความดีใด ๆ เอาแต่ก่อกรรมทำเข็ญ เมื่อตายไปแล้ว ก็ได้ไปเสวยผลกรรมอยู่ในนรก , ต่อมานางเดียรถีร์ผู้นี้ ได้มีโอกาสเข้ามาศึกษาพระศาสนาพุทธ นางก็ระลึกถึงมารดาของนางขึ้นมาได้ นางก็ทราบด้วยปัญญาว่าบัดนี้ มารดาคงต้องตกนรกอยู่เป็นแน่ ด้วยความเป็นห่วง นางจึงจัดการขายบ้านเรือนและทรัพย์สมบัติ เพื่อนำมาสร้างกุศล หวังที่จะช่วยมารดาของตน จนในที่สุด จึงได้ตั้งมหาปณิธานที่จะช่วยเหลือสัตว์โลกทั้งหลาย ที่ยังอยู่ในห้วงวัฏสงสาร ต่อหน้าพระพุทธเจ้าในยุคนั้นว่า " ไม่ว่าในชาตินี้ หรืออนาคตชาติอันมากมายไม่มีประมาณ ข้าฯขอตั้งมหาปณิธานที่จะช่วยเหลือสรรพสัตว์ ที่กำลังได้รับความทุกข์เข็ญ ด้วยผลกรรมใด ๆ ให้ได้พ้นจากห้วงทุกข์ ในนรก ได้ไปสู่สุขคติ และถึงพระนิพพานเป็นที่สุด . "
ด้วยอานิสงค์แห่งมหาปณิธานของท่าน จึงทำให้ท่านได้มาเป็นพระกษิติโพธิสัตว์ ซึ่งรักษามหาปณิธานของท่าน จนมาเป็นโศลกอันเลื่องลือประจำองค์ว่า
" จะโปรดสัตว์โลกจนหมดสิ้น เพื่อเป็นประจักษ์พยานแห่งพุทธะจิต
ตราบใดที่นรกยังไม่ว่าง สาบานว่าจะไม่ยอมบรรลุพระนิพพาน "
ด้วยมหาปณิธานอันนี้ จึงทำให้ท่านใช้ฤทธิ์ไปแสดงธรรมโปรดสัตว์นรก เปรต อสุรกายอยู่ในนรก เชื่อกันว่าในยามที่ท่านไปอยู่ในนรกนั้น ด้วยฤทธานุภาพและบุญญานุภาพของท่าน เป็นอานิสงค์ ให้สัตว์นรกที่กำลังต้องทัณฑ์ทรมานอยู่ ได้พ้นจากความทรมาณเป็นการชั่วคราว .
ตามความเชื่อทางมหายานนั้น ได้มีการบันทึกไว้ว่า พระศรีศากยมุนี ได้ไหว้วานขอให้พระกษิติโพธิสัตว์ ได้ช่วยสั่งสอนชี้แนะพระธรรมแก่สัตว์โลก ในภพภูมิทั้งหก คือ นรก , สัมภเวสี , อสุรกาย ,สัตว์เดรัจฉาน ,มนุษย์ และเทวดา ในช่วงที่เป็นรอยต่อ หลังจากพระศรีศากยมุนีได้ดับขันธ์ปรินิพพานไปแล้ว และ พระศรีอาริยเมตไตรยังไม่มาโปรด.





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น